ลักษณะทั่วไปของผีเสื้อ

        ผีเสื้อเป็นแมลงพวกหนึ่งแตกต่างจากพวกนกและสัตว์ เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ตรงที่ไม่มีโครงกระดูกอยู่ภายใน ลำตัว ประกอบด้วยวงแหวนหลายวงต่อกัน เชื่อมยึดด้วยเยื่อบางๆ เพื่อการเคลื่อนไหวได้สะดวก เปลือกนอกแข็งเป็นสารพวกไคทิน (chitin) ภายในเปลือกแข็ง เป็นที่ยึดของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการ เคลื่อนที่ ลำตัวของผีเสื้อเป็นวงแหวนเชื่อมต่อกัน ๑๔ ปล้อง ปล้องแรกเป็นส่วนหัว (head) ปล้องที่ ๒,๓ และ ๔ เป็นส่วน อก (thorax) และปล้องที่เหลือทั้งหมดเป็นส่วนท้อง (abdomen)



 


            ส่วนหัวมีตารวม (compound eye) ใหญ่คู่หนึ่ง ตรง บริเวณด้านข้างประกอบด้วยเลนส์เล็กๆหลายพันอัน ต่างจากตา ของคนเราที่มีเพียงเลนส์เดียว ตารวมรับภาพที่เคลื่อนที่ได้เร็ว เราจึงพบว่าผีเสื้อบินได้ว่องไว จับตัวได้ยาก บางทีอาจพบมีตา เดี่ยว (simple eye) ๒ ตา เชื่อกันว่า ใช้ในการรับรู้แสงว่ามืด หรือสว่าง
            หนวดมี ๑ คู่ อยู่ระหว่างตารวม เป็นอวัยวะรูปยาวเรียว คล้ายเส้นด้าย ต่อกันเป็นข้อๆ ทำหน้าที่รับความรู้สึกในการดมกลิ่น 
            ข้างใต้ของส่วนหัว มีงวง (proboscis) ใช้ดูดอาหารเหลว พวกน้ำหวานดอกไม้และของเหลวอื่นๆ งวงจะม้วนเป็นวงคล้าย ลานนาฬิกาเวลาไม่ได้ใช้ และจะคลายเหยียดออกเวลากินอาหาร งวงประกอบขึ้นด้วยหลอดรูปครึ่งวงกลม ๒ หลอดมาเกี่ยวกันไว้ ทางด้านข้างด้วยขอเล็กๆ เรียงเป็นแถว สองข้างของงวงมี อวัยวะที่มี ๓ ข้อต่อ ซึ่งเป็นอวัยวะส่วนปากที่เหลืออยู่เรียกว่า พัลป์ (palp) ยื่นออกมา
            ส่วนอกประกอบด้วยปล้องต่อกัน ๓ ปล้อง รอยต่อ ระหว่างปล้องมักไม่ค่อยชัดเจนนัก เนื่องจากมีเกล็ดสีปกคลุม อก แต่ละปล้องมีขาปล้องละคู่ ส่วนปีกคู่หน้าและปีกคู่หลัง ติดอยู่บนอกปล้องกลางและอกปล้องสุดท้าย
            ปีกของผีเสื้อเป็นแผ่นเยื่อบางๆ ประกบกัน มีเส้นปีกเป็น โครงร่างให้คงรูปอยู่ได้ ปกติผีเสื้อส่วนใหญ่จะมีเส้นปีกในปีกคู่หน้า ๑๒ เส้น และในปีกคู่หลัง ๙ เส้น การจัดเรียงของ เส้นปีกเป็นลักษณะสำคัญในการแยกชนิดของผีเสื้อ พื้นที่ที่อยู่ ระหว่างเส้นปีกเรียกว่า ช่องปีก (space) เรียกชื่อตามเส้นปีก ที่พาดอยู่ตอนล่าง เช่น ช่องปีกที่อยู่ระหว่างเส้นปีกที่ ๓ กับ เส้นปีกที่ ๔ เรียกว่า ช่องปีกที่ ๓ เกล็ดสีเล็กๆ บนปีกเรียงตัว กันเป็นแถวซ้อนกันแบบกระเบื้องมุงหลังคา นอกจากนี้ ยังมี เกล็ดพิเศษเรียกว่า แอนโดรโคเนีย (androconia) เกล็ด พิเศษนี้ตอนโคนต่อกับต่อมกลิ่น อาจอยู่กระจัดกระจายหรืออยู่ เป็นกลุ่ม เรียกว่า แถบเพศ (brand) ทำหน้าที่กระตุ้นความ ต้องการทางเพศของตัวเมีย


              


    ผีเสื้อบางพวกอาจมีจำนวนเส้นปีกน้อยกว่า หรือมากกว่า ๑๒ เส้น บางพวกเหลือเพียง ๑๐ เส้น เส้นปีกส่วนมากจะเริ่ม จาโคนปีกหรือจากเซลล์ปีก เซลล์ปีกเป็นบริเวณที่ว่างรูปสาม- เหลี่ยมอยู่บริเวณกลางปีก ค่อนไปทางด้านหน้า ถ้าปลายเซลล์มี เส้นปีกกั้นอยู่เรียกว่า เซลล์ปีกปิด แต่ถ้าไม่มีเส้นปีกกั้นเรียกว่า เซลล์ปีกเปิด บางเส้นจะแตกสาขามาจากเส้นอื่น ผีเสื้อใน วงศ์ผีเสื้อบินเร็วมีเส้นปีกเป็นเส้นเดี่ยวไม่มีการแตกสาขาเลย
   ขาของผีเสื้อเป็นข้อๆซึ่งแต่ละขาแบ่งออกได้เป็น ๕ ส่วน นับจากที่ติดกับลำตัวจะเป็นโคนขา (coxa) ข้อต่อโคนขา (trochanter) ต้นขา (femur) ปลายขา (tibia) และข้อเท้า (tarsus) มีเล็บเป็นจำนวนคู่ที่ปลายข้อเท้า

  ส่วนท้องต่อมาจากส่วนอก รูปร่างยาวเรียว ค่อนข้าง อ่อนกว่าส่วนอก ตอนปลายเป็นอวัยวะที่ใช้ในการสืบพันธุ์ อวัยวะสืบพันธุ์นี้มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละชนิด จึงเป็น ลักษณะสำคัญในการจำแนกผีเสื้อกลุ่มที่มีลักษณะภายนอกคล้าย กันมากๆ เช่น ผีเสื้อเณร (สกุล Euma)








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น